วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ภาวะโลกร้อน ^_^



ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หมายถึง การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศบนโลกสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอากาศบริเวณใกล้ผิวโลกและบริเวณน้ำในมหาสมุทร ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นถึง 0.74 ? 0.18 องศาเซลเซียส และจากแบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศพบว่าในปี พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2643 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกก็จะเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนก็เพราะว่าก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญถ่านหินและเชื้อเพลิง รวมไปถึงสารเคมีที่มีส่วนผสมของก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ใช้ และอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ลอยขึ้นไปรวมตัวกันอยู่บนชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่ควรจะสะท้อนกลับออกไปในปริมาณที่เหมาะสม กลับถูกก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้กักเก็บไว้ ทำให้อุณหภูมิของโลกค่อยๆสูงขึ้นจากเดิม
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นก็มีให้เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ สภาพลมฟ้าอากาศที่ผิดแปลกไปจากเดิม ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุที่รุนแรง อากาศที่ร้อนผิดปกติจนมีคนเสียชีวิต รวมไปถึงโรคระบาดชนิดใหม่ๆ หรือโรคระบาดที่เคยหายไปจากโลกนี้แล้วก็กลับมาให้เราได้เห็นใหม่ และพาหะนำโรคที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ในอนาคตคาดว่าผลกระทบของภาวะโลกร้อนจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเราสามารถช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้หลายวิธี หลักๆก็เห็นจะเป็นการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัด เพราะว่าพลังงานที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้กว่าจะมาถึงให้เราได้ใช้นั้น ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนในการผลิตมากมาย และแต่ละขั้นตอนก็จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นมา เพราะฉะนั้นการลดใช้พลังงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เช่น การปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้ การใช้น้ำอย่างประหยัด การใช้จักรยานแทนรถยนต์ในการเดินทางใกล้ๆ และอื่นๆอีกมากมาย
การปลูกต้นไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าในเวลากลางวัน ต้นไม้นั้นจะช่วยหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป และหายใจออกมาเป็นก๊าซออกซิเจน เปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเราโดยแท้ แต่ทว่าปัจจุบันป่าไม้ถูกทำลายและมีจำนวนลดลงไปอย่างมาก ฉะนั้นถ้าเราทุกคนช่วยกันปลูกต้นไม้ ก็เหมือนกับช่วยเพิ่มเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเรา

ที่มา http://www.greentheearth.info

การทำโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (กิจกรรมที่ 4.1)


กิจกรรมที่ 4.1 การทำโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

          การทำโครงงานประเภทซอฟแวร์ประยุกต์ รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 10 ชั่วโมง ครูผู้สอน คุณครู สุวีรา สุดาเดช ครูชำนาญการ โรงเรียนอำนาจเจริญ

ชื่อโครงงาน
          ภาวะโลกร้อน

ประเภทของโครงงาน
        พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา

ชื่อผู้จัดทำโครงงาน (จำนวน 5 คน)
          1.เด็กหญิง ฟองฝน     กาบสุวรรณ   เลขที่ 3
          2.เด็กหญิง อัจฉรา      ทองปน          เลขที่ 6
          3.เด็กหญิง ชนิดา        โพธารินทร์     เลขที่ 9
          4.เด็กหญิง เสถียรพร   ปิสาขา          เลขที่ 18
          5.เด็กหญิง เสาวคนธ์   มูลเมา           เลขที่ 44
                        ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
        คุณครู สุวีรา    สุดาเดช

ระยะเวลาดำเนินการ
        1 ธันวาคม 255531 มกราคม 2556

แนวคิด ที่มา และความสำคัญ
        ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จากอุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases)ปรากฏการณ์เรือนกระจกมีความสำคัญกับโลกเพราะก๊าซจำพวกคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด (และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์) ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ CO2 ที่ออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือการกระทำใดๆที่เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ) ส่งผลให้ระดับปริมาณ CO2 ในปัจจุบันสูงเกิน 300 ppm (300 ส่วนในล้านส่วน)เป็นครั้งแรกในรอบกว่า6แสนปี ซึ่งคาร์บอนไดออกไซด์ที่มากขึ้นนี้ได้เพิ่มการกักเก็บความร้อนไว้ในโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆจนเกิดเป็นภาวะโลกร้อน ดังเช่นปัจจุบันภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ.2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังมีความไม่แน่นอนหลายประการแต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการ แก้ไขออกไปเพียงใด ผล
กระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง

วัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างองค์ความรู้ในเรื่องภาวะโลกร้อน สถานการณ์ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนตื่นตัว และตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
2.เพื่อสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมประชาชนในการมีส่วนร่วมในการจัดการบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมไทยปัจจุบันและในอนาคต

หลักการและทฤษฎี
        ทุกวันนี้โลกของเราได้เกิดภาวะโลกร้อน ภาวะเรือนกระจก และขาดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติมาก กลุ่มของเราจึงเลือกที่จะทำโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง ภาวะโลกร้อน เพื่อที่จะได้แนะนำวิธีการลดภาวะโลกร้อน สาเหตุและปัญหาของภาวะโลกร้อน และแนะนำแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาวะโลก เพื่อที่จะทำให้โลกของเราปราศจากภาวะโลกร้อน และมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

วิธีดำเนินการ
        ประชุมสมาชิกในกลุ่มเพื่อที่จะได้ออกความคิดเห็นในเรื่องของการเลือกเรื่องที่จะทำโครงงาน

ขั้นตอนการปฏิบัติ
         1.เลือกเรื่องที่จะทำโครงงาน
         2.วางแผนเค้าโครงเรื่องที่จะทำ
         3.สืบค้นข้อมูลและนำมาเรียบเรียงเป็นโครงงานตามที่วางแผนไว้
         4.ตรวจสอบความเรียบร้อยและความถูกต้อง
         5.นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและส่งคุณครูผู้สอน

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
        โลกของเรามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ ปราศจากภาวะโลกร้อน ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยมีความสุข เกษตรกรมีน้ำใช้ในการปลูกพืช ไร่ สวนครัว อย่างเพียงพอ

เอกสารอ้างอิง
         http://www.globalwarmer.combrpoly.net/wwww.html

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ด้วยโปรแกรม Flip album


หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ด้วยโปรแกรม Flip album

         หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารดิจิตอลที่มีลักษณะคล้ายหนังสือที่เป็นรูปเล่มที่ประกอบไปด้วยตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอ เสียงดนตรี และเสียงอื่นๆ สามารถเผยแพร่ได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ในรูปแบบซีดีหรือเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต

         โปรแกรม Flip album เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้สร้างสรรค์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ด้วยลักษณะที่มีความเหมือนหนังสือที่เป็นรูปเล่ม ลักษณะการเปิดหรือพลิกหนังสือ ดูแล้วทำให้มีความสมจริงคล้ายกับหนังสือเป็นรูปเล่ม ง่ายต่อการศึกษาและการเก็บเกี่ยวข้อมูลรวบรวมเป็นหนังสือทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ถ้าใครต้องการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สามารถดูวิธีการสร้างได้ที่


วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

งานนำเสนอวีดีโอโรงเรียน (กลุ่ม)


จัดทำโดย
เด็กหญิง ฟองฝน  กาบสุวรรณ  เลขที่ 3
เด็กหญิง อัจฉรา  ทองปน  เลขที่ 6
นางสาว เสาวคนธ์  มูลเมา  เลขที่ 44
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4



วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

นำเสนอวีดีโอเดี่ยว


จัดทำโดย

นางสาว เสาวคนธ์  มูลเมา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 เลขที่ 44

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา(วันมาฆบูชา)

วันมาฆบูชา


  


วันมาฆบูชา
        วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หากเป็นปีอธิกมาส (ปีที่มีเดือน 8 สองหน) วันมาฆบูชาจะเลื่อนไปเป็น วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 หรือประมาณเดือนมีนาคม
        มาฆบูชา ย่อมาจากคำว่า มาฆปุรณมีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน3 ถือว่าเป็นวันจาตุรงคสันนิบาต แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ 4 ซึ่งเป็นเหตุการณที่เกิดขึ้นพร้อมกันในสมัยพุทธกาล คือ
1. พระสงฆ์จำนวน 1250 ซึ่งไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ ได้เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า
2. พระสงเหล่านี้ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น แลได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง การบวชชนิดนนี้เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา
3. พระสงฆ์จำนวน 1250 ได้เดินทางมาประชุมพร้อมกันโดยมได้นัดหมาย
4. วันที่มาประชุมกันตรงกับวันเพ็ญเดือน มาฆะ (วันเพ็ญเดือน3) ในวันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาติโมกข์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ประการได้แก่ 1. ละเว้นความชั่วทั้งปวง 2. ทำความดีให้ถึงพร้อม 3. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส
ประวัติในการประกอบพีธีกรรมทางพระพุทธศาสนา      
       การมีประเพณีมาฆบูชานี้ แต่เดิมไม่เคยทำมา พึ่งเกืดขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่หัว ทรงตามแบบโบราณบัณฑิตนิยมไว้ว่า วันมาฆบุรมีพระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆเต็มบริบูรณ์ เป็นวันที่พระอรหันต์จำนวน 1250 รูปได้มาประชุมพร้อมกันด้วยองค์สี่ประการ เรียกว่าจาตุรงคสันนิบาต พระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาโอวาทปาติโมกข์ในที่ประชุมสงฆ์ เป็นการประชุมใหญ่และอัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา จึงได้ถือเอาเหตุนั้นกอบการสักการะบูชาพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ 1250 รูปนั้น ให้เป็มที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสสังเวช
การประกอบพิธีเวียนเทียนในวันมาฆบูชา
        ประชาชนจะจัดเตรียมเครื่องสัการะ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน ไปพร้อมกันที่วัดในเวลาเย็นหรือค่ำ เพื่อประกอบพิธีมาฆบูชา การประกอบพิธีกรรมจะทำที่โบสถ์ เพราะหลังจากฟังโอวาทและสวดมนต์เสร็จแล็ว จะทำการเวียนเทียนรอบโบสถ์ ในการเดินเวียนเทียนรรอบโบสถ์ จะกระทำ3รอบ โดยเวียนไปทางขวาเรียกว่า เวียนแบบทักขิณาวัฏ ในขณะเดินเวียนเทียน ต้องทำจิตใจให้มีสมาธิ สงบและแน่วแน่อยู่กับบทบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆคุณ ไม่ควรส่งเสียงพูดคุยเสียงดังหรือเดินแซงผู้ที่เดินนำอยู่ข้างหน้า


วันแม่

วันแม่


                                       


แม่...คำนี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในใจลูกทุกคน จนยากที่จะเปรียบเทียบได้กับทุกสรรพสิ่งในโลก ดังคำขวัญที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานไว้ว่า แม่เป็นพระอรหันต์ของลูก คนที่เที่ยววิ่งหาพระเพื่อกราบไหว้พระอรหันต์ อย่าลืมว่ามีพระอรหันต์อยู่กับตัวแล้ว ควรปฏิบัติต่อแม่อย่าให้บกพร่องได้พระคุณของแม่อันประกอบไปด้วยความรักที่มีต่อลูกอย่างสุดหัวใจเช่นนี้ คงไม่ยากจนเกินไปนัก หากเอ่ยคำว่า รักให้แม่ได้ชื่นใจบ้าง เพราะคุณอาจโชคดีกว่าหลาย ๆ คนที่ได้เพียงแต่รำลึกถึงพระคุณแม่ผ่านภาพและเงาที่ตราตรึงไว้ในความทรงจำเท่านั้นว่า ลูกรักแม่
 

ชาวอเมริกันเป็นผู้กำหนดให้มีวันแม่อย่างเป็นทางการขึ้น และผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา คือ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย แต่กว่าเธอจะประสบความสำเร็จก็ครบ 2 ปีพอดีในปี ค.ศ.1914 (พ.ศ. 2457) โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้านหรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการจัดงานวันแม่ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดงาน แต่เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไปโดยปริยาย หลังจากผ่านพ้นวิกฤติสงครามไปแล้ว หลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง แต่กำหนดวันแม่ที่ประชาชนนิยม และเป็นที่รับรองของรัฐบาล คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 กำหนดงานวันแม่ในวันนี้ยังดำเนินต่อมาอีกหลายปี ก็ต้องมาหยุดชะงักลงอีก ด้วยเหตุผลที่ว่าสภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุนซึ่งก็คือกระทรวงวัฒนธรรมที่ถูกยุบไปนั่นเอง
 ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทยเห็นว่าควรมีการจัดงานวันแม่ต่อไป จึงได้รื้อฟื้นงานวันแม่ขึ้นมาอีก และได้กำหนดให้จัดงานวันแม่ คือวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวก็เลิกไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอนเสียที จึงได้กำหนดวันแม่ใหม่โดยให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และ กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ตั้งแต่นั้นมา
เหตุผลที่ให้ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ก็เนื่องจาก ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย...


  อ้างอิง  http://blog.eduzones.com/winny/3603






วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดการเขียนโปรแกรมหน้า 39

4.1 ให้นักเรียนเขียนโปรแกรมรับชื่อ นามสกุล เมื่อรับชือและนามสกุลแล้วให้แสดงกล่องตอบโต้ทักทายว่าสวัสดี ตามด้วยชื่อที่รับมา

<html>
        <head>
        <script language="javascript">
        <!--
        var a;
        var b;
        a=prompt("Input your Name");
        b=prompt("Input your Lastname");
        alert("สวัสดี"+a+b);
        </script>
        </head>
</html>
4.2 ให้นักเรียนเขียนโปรแกรมหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า และแสดงผลการหาค่าทางกล่องตอบโต้

<html>
        <head>
        <script language="javascript">
        <!--
        var a;
        var b;
        a=prompt("Input your widht");
        b=prompt("Input your neight");
       alert("พท.สี่เหลี่ยมผืนผ้า"   +a*b);
       </script>
       </head>
</html>

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

saow....^_^



ชื่อ นางสาว เสาวคนธ์  มูลเมา

ชื่อเล่น สาว อายุ 15 ปี

กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม. 3/4 เลขที่ 48

เหตุผลที่เลือกเพลง" แพ้ใจ "

    เพราะ สื่อถึงอารมย์ได้ดี มีความหมายดี เวลาฟังเพลงนี้ทีไรรู้สึกมีความสุข ทำให้อยากร้องตาม